Sep 10, 2019

ศึกษาธรรมชาติริมทะเลยามเช้า


หัวหิน... ทะเลที่ไม่น่าจะเหลือธรรมชาติอะไรให้ค้นหานอกจากรีสอร์ตต่างชาติและน้ำเค็ม แต่ธรรมชาติก็ยังหลงเหลือเรื่องราวให้คนกรุงได้เรียนรู้ ณ ที่พักสวัสดิการทอ. รีสอร์ทเงียบๆ หลังสนามบินหัวหิน

ตื่นเช้า(มั้ง)เดินเล่นหน้าที่พัก หน้าฝนคนน้อย แดดที่พร้อมจะแรงเพราะส่องเข้าหน้าตึกพอดี เมฆบังไปเกือบหมด สะพาย canon m พร้อม Note FE ส่องไปเรื่อย ทะเลและสายลมจะเยียวยาทุกสิ่ง ความวุ่นวายจากงานและผู้คนให้คลื่นลมพัดทิ้งไป


ริมทะเลที่น้ำเริ่มลง ปูทหาร ปูลม ปั้นทรายเป็นก้อนกลมเล็กๆ ทั่วหาด ยังไม่มีรอยเท้ามนุษย์ไปรบกวน รอบนี้ไม่ได้เอากล้องซูมมา ใช้มือถือส่องไปตามสภาพ น่าจะเป็นนกชายเลนมาหาจิกกินปูไปเรื่อย ถ้าเราเดินเข้าระยะ 5 เมตร นกก็จะเริ่มบินหนี ไปส่องปูตามพื้นทรายดีกว่า จะถ่ายนกต้องกล้องซูมเท่านั้น

PAINTED STONE CRAB

ปูหนุมาน (รุ่นเล็ก) ลายพร้อยแต่สียังไม่เข้มเท่าตัวเต็มวัย วิ่งเร็วมาก หากินตามซอกหิน เจออะไรต้องรีบถ่าย ธรรมชาติมาไวไปไว

Sep 9, 2019

ปูหนุมานลายจุด

Common moon crab

เดินเล่นบริเวณน้ำตื้นตอนเช้าริมหาดบ่อฝ้าย เจอลูกปูตัวเล็กๆ สีเหลืองสดใส มุดตัวลงทรายเร็วมาก ต้องใช้วิธีมองคู่กับเปลือกหอยแล้วเอานิ้วขุดลงไปข้างหลังตัวปู ค่อยๆ จับด้านหลัง เพราะกระดองด้านข้างมีหนามแหลม ขอถ่ายรูปแป็บนึงก่อนปล่อยกลับลงทะเล

ข้อมูลที่หาได้:
ปูหนุมานลายจุด มีกระดองโค้งกลม ขอบกระดองหลังเบ้าตาหยักเป็นฟันเลื่อย ด้านข้างมีหนามแหลมยื่นออกชัดเจนด้านละ 1 อัน ผิวกระดองสีเหลือง มีจุดแดงเล็กๆกระจายทั่วไป ขาเดินทุกคู่แบนเป็นใบพายใช้สำหรับว่ายน้ำ อาศัยอยู่ริมชายฝั่งทะเลที่พื้นเป็นทราย ในเขตน้ำขึ้นน้ำลง ไปถึงระดับน้ำลึก 20 เมตร

Feb 11, 2018

ขึ้นเขียง...ADMIT

*** เรื่องและภาพเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียนตามกฎหมาย ***

เตรียมตัวก่อนผ่าตัด ตามคู่มือของ รพ.
สระผม ตัดเล็บ และมีญาติมาเฝ้า 1 คน
-----------------------------------------------------------------

////////// กิจกรรมคืนแรก (ก่อนผ่า) //////////
- พยาบาลจะช่วยกำจัดขนบริเวณหน้าท้องโดยการโกน
เพื่อการติดสติ๊กเกอร์กันน้ำหลังผ่าตัด
- ดีท๊อกซ์ด้วยน้ำเกลือ 1 ลิตร
- งดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืน

-------------------------------------------------------------------

////////// วันผ่าตัด //////////
เข็นเข้าห้องผ่าตัดตอนเช้า
วิสัญญีแพทย์ก็เข้ามาชวนคุยเล็กน้อย
ก่อนเข็นเข้าไปในห้อง อากาศเย็นๆ สูดยาสลบสองสามที อืม...หลับดีกว่า
////////// ผ่าตัด 3 ชม. ////////// 
รู้สึกตัวอีกทีก็เที่ยง 15 นาที มองเห็นถุงเลือดห้อยอยู่ที่ปลายเท้าครึ่งถุง
อืม...ยังง่วงอยู่ นอนต่อละกัน
พยาบาลมาบอกว่าจะเข็นกลับไปห้องพัก เที่ยงครึ่ง เลือดหมดถุงพอดี

กลับมาถึงห้องพักช่วงบ่าย พร้อมญาติพี่น้องรอลุ้นว่าจะเมายาไหม
ก็ไม่เจ็บอะไรมาก แค่ไม่มีเสียงพูด เพราะเป็นหวัดก่อนผ่าตัด
นอนเฉยๆ บนเตียง มีสายปัสสาวะเสียบอยู่ อดข้าวอดน้ำต่ออีก 1 วัน
นั่งมองญาติๆ กินไปก่อน ให้น้ำเกลือ + ยาฆ่าเชื้อ + มอร์ฟีน

วันนี้ไม่ค่อยปวดมาก เพราะไม่ได้ขยับตัว 
นอนเล่นมือถือไป หิวน้ำหิวข้าว แต่ก็ต้องทน
ถ่ายรูปพุงตัวเอง...โอ้วม่าย ทำไมโดนผ่าเปิด แถมส่องกล้องอีก 3 รู
พยาบาลบอกว่าต้องรอถามคุณหมอพรุ่งนี้เช้านะคะ T^T

-----------------------------------------------------------------

////////// หลังผ่าวันที่ 1 //////////
- พยาบาลมาช่วยเช็ดตัวบนเตียงตอนเช้า
- พบอาจารย์หมอ คุยเรื่องปัญหาในการผ่าตัด
เนื่องจากพังผืดแข็งมาก จากเนื้องอกด้านหลังมดลูกไปเกาะลำไส้ใหญ่
ไฟฟ้าจี้ไม่ขาด เลือดออกมาก หมอจึงต้องผ่าเปิดเอากรรไกรลงไปตัด
- 10 โมง ถอดสายปัสสาวะ
- รู้สึกแน่นท้อง เสียดกระบังลม 2 ข้าง
- เที่ยง ให้มอร์ฟีน
- บ่าย 2 ทานโจ๊ก (เรียกว่าดมดีกว่า กินได้น้อยมากๆ รู้สึกเหมือนท้องจะระเบิด)
- นอนหลับๆ ตื่นๆ พยาบาลเข้ามาวัดไข้ วัดความดัน
- เดินวนๆ อยู่ในห้อง
-------------------------------------------------------------------

////////// หลังผ่าวันที่ 2 //////////
- พยาบาลมาช่วยอาบน้ำในห้องน้ำ
- พบหมอตัวแทน หมอยังไม่ให้กลับบ้านเพราะยังมีไข้ขึ้นๆ ลงๆ
- ทานอาหารอ่อน
- 10 โมงถอดสายน้ำเกลือ (คาเข็มอ่อนไว้)
- รู้สึกแน่นท้อง เสียดกระบังลม 1 ข้าง
- ทานข้าวเที่ยง + ยาฆ่าเชื้อ + ยาแก้ปวด + ยาขับลม
- ขอยาระบายเพราะปวดท้องแต่ถ่ายไม่ออก (ไม่กล้าระเบิดพลัง)
- 4 โมงเย็นพยายามเดินเล่นนอกห้อง
-----------------------------------------------------------------

////////// หลังผ่าวันที่ 3 //////////
- ทานอาหารเช้าปกติ
- พบอาจารย์หมอ บอกว่าวันนี้กลับบ้านได้
แต่คนไข้ยังถ่ายไม่ออก ขออยู่ให้ระบบขับถ่ายทำงานปกติก่อน
หมอให้ดื่มกาแฟได้ ถ้ายังไม่ออกก็จะให้เหน็บยาช่วงบ่าย
- กาแฟสด 1 แก้วช่วยท่านได้ (หมดไส้หมดพุง)
- บ่าย 2 ถอดเข็มน้ำเกลือ
- เย็นๆ นั่งจดบันทึก วางแผนงาน แน่นท้องช่วงล่าง ไม่เสียดกระบังลม แต่ปวดแผลผ่าตัด
- เสียงพูดเริ่มกลับมาเป็นปกติ
- เดินเล่นนอกห้องพัก

-----------------------------------------------------------------

////////// หลังผ่าวันที่ 4 //////////
จ่ายเงิน แล้วเก็บของกลับบ้านสิคะ รอไร
เจ้าหน้าที่ รพ.ช่วยเข็นคนป่วยลงไปและเรียกแท็กซี่ให้
พยาบาลบอกว่าอย่าขึ้นลงบันไดนะคะ
มาถึงก็กวาดห้องก่อนเลยเพราะทิ้งไปหลายวัน
นอนบ้านคืนแรกรู้สึกปวดหลัง ปวดแผล
แนะนำให้หาหมอนมารองต้นขา เพราะช่วงแรกๆ ยังเหยียดท้องตรงๆ ไม่ได้
บิดขี้เกียจไม่ได้เลย นอนตะแคงไม่ได้ เดินหลังงอไปอีก 7 วัน
เนื่องจากกลัวสติ๊กเกอร์กันน้ำหลุด เวลาอาบน้ำก็เลยหาพลาสติกมาแปะทับอีกชั้นนึง
(ลำบากลำบน)


อ.หมอเขียนใบลางานให้ 30 วัน และนัดดูแผลผ่าตัดอีก 2 อาทิตย์
ช่วง 1 อาทิตย์แรกก็จะนั่งทำงานนานไม่ได้ ต้องเดิน นั่ง นอน สลับกันไป
----------------------------------------------------------------------------

ตอนต่อไปจะเป็นสภาพการฟื้นตัวของร่างกายหลังผ่าตัดค่ะ >>>

Dec 29, 2017

จุดจบสายแข็ง...ผ่าตัดมดลูกเวอร์ชั่น Convert to Laparotomy

*** เรื่องและภาพเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียนตามกฎหมาย ***

การผ่าตัดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แค่เตรียมตัวให้พร้อม 
เรื่องเวลาในการพักพื้น (30 วัน+) และค่าใช้จ่าย
หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่หลงเข้ามาอ่านทุกท่านนะคะ

ในขณะที่บิทคอยน์ใกล้ทะลุ 1,000 $ (เกี่ยวไหม?)
โรคภัยไข้เจ็บที่สะสมมานานก็ต้องสะสางซะที

เริ่มจากการปวดท้องเรื้อรังมาหลายปี 
ซึ่งวินิจฉัยยาก เพราะปวดท้องมีหลายสาเหตุ
ระบบขับถ่ายเป็นปกติ และน้ำหนักก็ไม่เคยลด (มีแต่อ้วนขึ้น) 
วิ่งก็แล้ว โยคะก็แล้ว แก้ได้แต่โรคปวดหลัง
(โยคะนี่ช่วยให้ความแข็งแรงกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นด้วย ฝึกไว้ก็ดีนะ 
แต่ต้องฝึกต่อเนื่องเกินปีถึงจะเห็นผล)

วินิจฉัยตัวเองมั่วๆ คิดว่าเป็นโรคลำไส้แปรปรวน (IBS)
กินแต่ยาแก้ปวด แล้วก็นอนพัก อาศัยว่าเป็นคนแข็งแรง ทนๆ เอา
ซึ่งทำให้หมอถามหลังผ่าตัดว่าทำไมเป็นเยอะขนาดนี้แล้วมาแบบชิวๆ
ก็ตอนมาหาหมอมันไม่ปวดอ่ะค่ะ
เป็นโรคขี้เกียจไปรพ.และชอบมโนว่าตัวเองแข็งแรง
(ช่วงที่ยังไม่รู้ตัว ก็ยังไปขึ้นภูกระดึงอยู่เลยอ่า...)

ชะนีเยี่ยงเรา พออายุเกิน 35+ ตรวจสุขภาพประจำปีก็เพิ่มตรวจมะเร็ง 
แต่ไม่เคยสนใจเรื่องเนื้องอก เพราะไม่คิดว่าจะเป็น
ว่างจากงานก็ไปเที่ยว ปวดท้องเหรอ กินยากดอาการเอา สายถึกทนได้...
(เจ็บไม่ว่าขอไปดูซากุระก่อน)
แต่น้องชายก็เริ่มสังเกตว่า พี่สาวดูเหนื่อยง่ายผิดปกติ 
ความถึกเริ่มลดลงและความเหวี่ยงวีนเริ่มมา เวลาเหนื่อยจนหมดแรง

เริ่มมีภาวะเลือดจางจนบริจาคเลือดไม่ได้
มีวูบบ้าง บ้านหมุนเล็กน้อย เพราะความดันต่ำ (เป็นปกติของร่างกาย)

2 ปีก่อนผ่าตัดเริ่มสังเกตว่า ไม่มีระดูขาว และมีเลือดจางๆ เหมือนน้ำล้างกาแฟมาแทน
ซึ่งก็ไม่ได้เยอะมาก แค่มาซึมๆ พอให้เหนื่อยเวลาซักผ้า 
(ไม่ชอบใช้แผ่นอนามัย เพราะหมอสูฯ เคยบอกว่า 
เป็นการเพิ่มความชื้นและเป็นอาหารของเชื้อรา
ผิวก็ไม่ค่อยดี ใช้แล้วระคายผิวมากกว่าสบายตัว)
ลองจดบันทึกไว้ทุกเดือนก็จะเห็น circle
เลือดน้ำตาลจางๆ จะมาทุก 2 อาทิตย์หลัง ปจด.
ก็ไม่สนใจอีก เพราะคิดว่าอายุมากละ ปจด.คงตกค้างไรงี้
(ซึ่งก็ตกค้างจริงๆ เป็นช๊อคโกแลตซีสที่รังไข่ไง...ยังๆ มันยังไม่รู้ตัว)

จนปีสุดท้ายก่อนผ่าตัด ความปวดถึงจุดพีค คือทุกครั้งจะปวดท้องขวาต่ำจุดเดียว 
(มีเฉลยหลังผ่าตัด)
ปวดแบบไปไหนไม่ได้ กินยาแล้วนอนเท่านั้น บางทีปวดต่อเนื่องนาน 3-5 วัน
และเริ่มร้าวไปถึงกล้ามเนื้อด้านหลัง (เพราะมันไปรั้งกะลำไส้ใหญ่)
เอาล่ะ คงจะมีไข่เอเลี่ยนอยู่ในท้องเป็นแน่แท้ Ultrasound เถอะเธอ

ผล Ultrasound ก็มาเต็ม (ช๊อคโกแลต)ซีสต์รังไข่ซ้าย 3 cm.
(แต่เวลาปวดท้องไม่เคยปวดด้านซ้ายเลยนะ)
เนื้องอกผนังมดลูกด้านหน้า 3.5 cm.
ด้านหลัง 5.5 cm. แถมด้านหลังนี่แหล่ะ ที่สร้างความปวดจนต้องมาหาหมอ
(ปกติเนื้องอกอย่างเดียวมักไม่มีอาการ)
เพราะพังผืดจากเนื้องอกไปเกาะลำไส้ใหญ่แข็งเหนียวจนเป็นเนื้อเดียวกัน
เครื่องมือส่องกล้องตัดไม่ขาด จนอ.หมอต้องผ่าเปิด
พังผืดมองไม่เห็นด้วยการซาวน์ แต่ดูจากมดลูกเบี้ยวผิดรูปตามการดึงรั้ง (อ.หมอบอก)

เมื่อตรวจพบเนื้องอกขนาดกลาง คนไข้ก็ยังมีเวลาชิวหาที่ผ่าตัด
โชคดีที่รู้จักคุณหมอท่านนึงเป็นโรคเดียวกัน ผ่าแบบส่องกล้องที่จุฬา
อย่ารอช้า ก๊อปปี้เลยค่ะ หวังว่าจะได้ส่องกล้องแบบชิวๆ
แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้นค่ะโยม เพราะเราเป็นเยอะกว่าคุณหมอ

หลังจากโทรนัดอาจารย์หมอที่จุฬา เดือนครึ่งกว่าจะได้เจอ
อ.หมอก็พูดเหมือน 2 รพ.ที่เคยไปตรวจ ว่าโรคนี้ต้องผ่าตัด แต่ไม่รีบค่ะ
คนไข้ก็ยังงานยุ่งอยู่ หาหมอต้นปี เลยขอผ่าช่วงปลายปี
ดองพักร้อนรอไว้เลย เผื่อลาป่วยไม่พอ
ถ้าโชคดีผ่าแบบส่องกล้องได้ ก็จะได้ฟื้นทันเที่ยวช่วงปีใหม่
แต่ถ้าโดนผ่าเปิด หมอจะเขียนลาให้ 30 วันตามมาตรฐาน

อ.หมอแนะนำว่าถ้าอยากมีลูก สภาพมดลูกแบบนี้ เก็บไข่ไว้อุ้มบุญจะดีกว่า
เพราะท้องไม่ได้แล้ว เป็นพังผืดเยอะ 
หมอ 2 รพ.ก่อนหน้านี้ไม่พูดเรื่องพังผืดเลยนะ เราคงจะมาถูกทางแย้ว
ด้วยอายุก็ 30 ปลายๆ  จะท้องคงไม่ไหว (เดี๋ยวๆ หาพ่อพันธุ์ได้ยังอะ?)
ตัดเลยดีกว่า เจ็บตัวรอบเดียวพอ
สรุปตัดรังไข่ข้างซ้ายที่เป็นซีสต์ และมดลูกทั้งหมด
เหลือรังไข่ขวาไว้สร้างฮอร์โมนก็พอ
(จะขาดฮอร์โมนหรือเปล่า ไปลุ้นกันหลังผ่าตัด
เคยถามน้องคนนึงตัดมดลูกแล้ว เหลือรังไข่ 2 ข้างแต่ก็เกิดภาวะขาดฮอร์โมนได้)

ไม่กล้าใช้ประกันสังคม เพราะเบิกได้แค่ในเวลาราชการเท่านั้น ยกเว้นอุบัติเหตุ
ปวดท้องยังไงให้ตรงเวลาราชการ...งงกะมัน 
ปวดทีไรกลางคืนทุกที เบิกได้ป่ะ(ห่าน...)
จะไปเข้าคิวผ่าตัดในรพ.รัฐ นั่งแออัดรวมกะแรงงาน ตปท.ไหวเหรอ
แต่ละคนเอาโรคอะไรเข้าประเทศไทยบ้างก็ไม่รู้
(ไปรพ.วันปกตินี่นึกว่าอยู่ตะเข็บชายแดน)
ประเทศไทยเคยควบคุมวัณโรคได้
พอเปิด AEC เท่านั้นแหล่ะ
วัณโรคระบาดในโรงเรียนรัฐของกทม...เวรกรรม
ดูแลลูกหลานกันให้ดีๆ

วิวบนรพ.ที่จ่ายประกันสังคมแต่ลำบากในการใช้บริการ

ระหว่างรอผ่า 8 เดือน ก็กินฮอร์โมนทุกวันตามหมอสั่ง
(ห้ามซื้อมากินเองเด็ดขาด เพราะร่างกายแต่ละคนตอบสนองต่อฤทธิ์ยาไม่เท่ากัน)
วันไหนลืม ระดับฮอร์โมนตก อีก 2 วัน ปจด.ก็จะมาเยือน
ช่วงนี้จะไม่ค่อยปวดท้องมาก ร่าเริงจนคิดว่าหายแล้วมั้ง

6 เดือน follow up ซีสต์และเนื้องอกโตขึ้นเล็กน้อย
อ.หมอก็นัดขึ้นเขียง โดยตกลงกันว่าเริ่มจากส่องกล้องก่อน
ถ้ามีปัญหา โดยยึดหลักความปลอดภัยของคนไข้
เพราะการส่องกล้องใช้เวลานาน หากคนไข้เสียเลือดมาก 
หมอจะ Convert to Laparotomy (เปลี่ยนเป็นผ่าแบบเปิดหน้าท้อง)

ตรวจเลือดก่อนผ่าตัด


พยาบาลจะคำนวนค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ให้ก่อน 
เลือกที่จะส่องกล้อง แถมมานอกเวลาราชการ โดนไป 6 หลักเบาๆ
เกินวงเงินประกันกลุ่มของบริษัทไปเล็กน้อย
แต่ก็พอจ่ายส่วนต่างเองได้
เตรียมเงินไว้จ่ายก่อน เบิกทีหลังจร้า
(ประกันดีงามมาก จ่ายตาม limit ที่คุ้มครอง 90% ของค่าผ่าตัดเลย...กราบค่ะ)

>>> การเตรียมตัว / วันผ่าตัด / นอนรพ. / การพักพื้นหลังผ่า <<<

Mar 18, 2015

Siam Paragon 2014

 ‎
18 ‎December ‎2013 - New year festival at Siam Paragon

Mar 15, 2015

แมงปอปีกบาง - Dragonfly

เรื่อง : http://th.wikipedia.org/wiki/แมลงปอ
ภาพ : Black Cat

แมลงปอจัดเป็นซากดึกดำบรรพ์มีชีวิตจำพวกหนึ่ง โดยถือกำเนิดมาตั้งแต่ 320 ล้านปีก่อน ในยุคคาร์บอนิเฟอรัส ก่อนหน้าไดโนเสาร์ และแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเลยมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากขนาดลำตัว แมลงปอในยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีขนาดใหญ่มาก โดยมีความห่างระหว่างปีกมากกว่า 70 เซนติเมตร

แมลงปอเข็ม ตัวเล็ก ตาโปน ปีกคู่หลังมีขนาดเท่ากับปีกคู่หน้า
เวลาเกาะจะหุบปีก จัดอยู่ในอันดับย่อย Zygoptera
ซึ่งแยกออกไปจากแมลงปอบ้าน

แมลงปอ จัดอยู่ในอันดับฐาน Anisoptera (มาจากคำว่า "anisos" จากภาษากรีก ανισος แปลว่า "สมดุล" + πτερος "pteros" หมายถึง "ปีก") ปัจจุบัน มีการค้นพบแมลงปอแล้วกว่า 5,000 ชนิด จัดอยู่ประมาณ 500 สกุล แบ่งออกได้เป็น 9 วงศ์ สำหรับในประเทศไทยมีการค้นพบแมลงปอแล้วมากกว่า 295 ชนิด และทั่วโลกยังมีแมลงปอที่เชื่อว่ายังมีอีกราว 600-1,000 ชนิด ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก

แมลงปอบ้าน ตัวใหญ่ สีเข้ม หัวโต ตากว้างแต่ไม่โปน
ปีกคู่หลังใหญ่กว่าปีกคู่หน้า เวลาเกาะจะกางปีกในแนวราบ

แมลงปอ เมื่อเจริญเป็นตัวเต็มวัยมีอายุขัยโดยเฉลี่ยเพียง 7-8 สัปดาห์ ขณะที่แมลงปอเข็ม ที่มีขนาดเล็กกว่ามีอายุได้เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น แมลงปอเมื่ออายุมากแล้วปีกบางส่วนจะถูกทำลายไป และสีซีดลง เมื่อตายลงแมลงปอสีจะซีด ดังนั้นในทางกีฏวิทยา และนักสะสมแมลง จึงมักไม่ค่อยเก็บแมลงปอไว้เหมือนกับแมลงจำพวกอื่นอย่าง ผีเสื้อ เพราะสีปีกของแมลงปอจะซีดลงไม่เหมือนตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจากสูญเสียเม็ดสีในตัวไป

ภูกระดึง : น้ำตกวังกวาง 8 ธ.ค. 2557

การที่แมลงปอแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเลย เพราะมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว มีจุดเด่น คือ มีส่วนหัวที่กลมโตใหญ่ มีดวงตาขนาดใหญ่ 2 ดวงอยู่ด้านข้าง ซึ่งประกอบไปด้วยดวงตาขนาดเล็กรูปร่างคล้ายรังผึ้งถึง 30,000 ดวง ทำให้แมลงปอสามารถมองเห็นภาพได้กว้างถึง 360 องศา ถือเป็นแมลงที่มีประสาทการมองเห็นได้ดีที่สุด โดยในปี ค.ศ. 1585 นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ได้สังเกตเห็นถึงความคล้ายกันของส่วนหัวของแมลงปอกับปลาฉลามหัวค้อน

สามารถบินได้เร็วถึง 130 กม./ชม. ด้วยแรงส่งของลม
กระพือปีกประมาณ 500 ครั้ง/1 วินาที บินสูงได้นับเป็นร้อยเมตร

แมลงปอ มีขากรรไกรล่างที่แข็งแรง แหลมคม มีขนาดใหญ่ จับแมลงต่าง ๆ เช่น ยุง, แมลงวัน, ตัวต่อ, ผีเสื้อ แม้กระทั่งแมลงปอด้วยกัน กินเป็นอาหารด้วยเล็บเท้า

แก่งส้มแมว : 3 ‎ม.ค. ‎2558


แมลงปอจัดว่าเป็น“ตัวห้ำ” (predator) กินอาหารง่าย ไม่เลือกเหยื่อ มันกินแมลงแทบทุกชนิดและทุกตัวที่อ่อนแอกว่าล้วนตกเป็นเหยื่อได้ทั้งสิ้น ช่วยควบคุมแมลงศัตรูพืช รวมทั้งช่วยกำจัดแมลงที่ชอบสร้างความรำคาญหรือนำโรคมาสู่คนและสัตว์เลี้ยง เช่น ยุง ริ้น แมลงหวี่ แมลงวัน แมลงเม่า เป็นต้น
แม้แต่ในช่วงตัวอ่อน มันยังช่วยกินลูกน้ำยุงเป็นอาหาร จึงกล่าวได้ว่า“แมลงปอเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมแมลงศัตรูพืช โดยวิธีธรรมชาติหรือชีววิธี”

ที่มา : http://www.magnoliathailand.com/webboard/?topic=10228.0
เมกะนิวร่า : http://www.prehistoric-wildlife.com/species/m/meganeura.html